เตรียมบ๊ายบาย”เคดบี”กระทาชายติ่งโอเว่น


เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ แมนฯ ซิตี้ แต่หากใครทราบประวัติเจ้านี่แฟนบอล ลิเวอร์พูล แบบมี ไมเคิ่ล โอเว่น เป็นแข้งขวัญใจ – โดยวานนี้หลังแข้งวัย 33 ปีแจ้งแยกทางต้นสังกัดเมื่อสิ้นซีซั่น ก็ขอร่วมสดุดีผลงานหน่อย

เดอ บรอยน์ กำลังจะหมดสัญญากับ ซิตี้ หลังร่วมงานมากว่า 10 ปีนับแต่ย้ายพ้น โวล์ฟส์บวร์ก เมื่อซัมเมอร์ 2015 


ความสำเร็จไม่ต้องสาธยาย ได้แชมป์เมเจอร์กับ ซิตี้ 19 รายการ ประกอบด้วย 6 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, 2 เอฟเอ คัพ, 5 ลีก คัพ, 1 แชมเปี้ยนส์ ลีก, 1 ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ, 1 ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ 3 คอมมิวนิตี้ ชีลด์



ไฮไลต์คือทริปเปิ้ล-แชมป์ ฤดูกาล 2022-23 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 


“ถึง แมนเชสเตอร์” เดอ บรอยน์ แถลงการณ์ผ่าน อินสตาแกรม, เฟซบุ๊ก และทุกแพล็ตฟอร์มทางการ 


“ได้เห็นสิ่งนี้พวกคุณก็คงทราบแล้วว่าตอนจบไปทางไหน ดังนั้นผมเข้าเรื่องเลย และจะแจ้งให้ทุกคนทราบว่านี่คงเป็นเดือนท้ายๆของผมฐานะผู้เล่น แมนฯ ซิตี้” 


“การร่ายอะไรออกมามันไม่ง่าย แต่ฐานะนักฟุตบอลอาชีพ เราล้วนทราบว่าวันนี้ต้องมาถึง”


“ซึ่งของผมคือวันนี้นี่เอง – แล้วพวกคุณสมควรทราบจากตัวผมเองเป็นคนแรก” 


“ฟุตบอลนำทางผมให้มาเจอพวกคุณ – และเมืองนี้” 


“ให้ผมได้ล่าฝัน แบบไม่ทราบมาก่อนเลยว่าช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปเลย”


“ทีม ซิตี้ นี้, สโมสรนี้, ผู้คนที่ผ่านเข้ามา … มอบทุกสิ่งทุกอย่างแก่ผม” 


“ผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบแทนทุกอย่างตอบแทนกลับไป! ซึ่งผลลัพธ์คือเราได้แชมป์มาแล้วทุกรายการ” 


“ก็ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตามมันถึงเวลาต้องกล่าวลา – สมาชิกครอบครัวทั้ง ซูริ, โรม, เมสัน, มิเชลล์ และผมล้วนยิ่งกว่าซาบซึ้งบุญคุณของสถานที่แห่งนี้ว่ามีความหมายต่อบ้านเรามากแค่ไหน” 


“เมืองแมนเชสเตอร์ จะถูกบันทึกบนพาสปอร์ตว่าเป็นสถานที่เกิดของลูกๆผมตลอดไป – แล้วสำคัญกว่านั้นจะอยู่ในใจเสมอ” 


“จะถูกเรียกว่าบ้านของเราไม่มีทางเปลี่ยน” 



“แล้วคงไม่สามารถละเลยการขอบคุณเมือง, สโมสร, สตาฟฟ์, ทีมเมต, มิตรสหายและครอบครัวคงไม่ได้ สำหรับช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา” 


“ทุกเรื่องบนโลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แต่นี่จะเป็นฉากตอนที่ดีที่สุด” 


“มารื่นเริ่งกับช่วงเวลาสุดท้ายร่วมกัน” 


“รักล้นใจ” 


“เคดีบี”  


เดอ บรอยน์ คือฟันเฟืองสำคัญของผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า หลายปีดีดักในการร่วมกวาดแชมป์ทุกรายการใต้ชายคาเอติฮัด สเตเดี้ยม   


อย่างไรก็ตามด้วยวัยวุฒิที่มากขึ้น 33 ปีร่างกายก็ถดถอย ไหนยังมีเรื่องทัศนคติการทำงานที่ต่างฝ่ายต่างมีอีโก้จนปรากฏเป็นภาพโต้เถียงข้างสนาม หรือบางครั้งบึ้งตึงใส่กัน 


แล้วเป็นกุนซือวัย 54 กะรัตชิงต่อสัญญาอยู่โยงต่อไป ดังนั้น ‘เคดีบี’ จึงเหลือทางเลือกไม่มาก คือหากอยากอยู่ต่อก็ต้องยอมรับค่าจ้างและบทบาทที่ลดลง 


แต่หากเชื่อว่ามีศักยภาพเหลือเฟือ ก็ต้องเลือกย้ายออกแบบฟรีเอเยนต์ ซึ่งผลออกมาเป็นอย่างหลัง


ป้ายหน้าเป็นอย่างไรคือเรื่องของอนาคต เวลานี้ เดอ บรอยน์ ทำไป 106 ประตูจาก 413 เกมจากทุกรายการฐานะ ‘เรือใบสีฟ้า’



แต่ที่เจ๋งกว่าคือจำนวน 174 แอสซิสต์


ทว่าฤดูกาลนี้เขาถูกส่งแข่งฐานะตัวจริงแค่ 19 เกม ส่วนหนึ่งเพราะเจ็บกล้ามเนื้อหลัง แล้วมันอาจส่งผลโดยตรงต่อผลงาน ซิตี้ 2024-25 


มองแง่สถิตินับจากถูกซื้อด้วยสนนราคา 76 ล้านยูโร เมื่อทศวรรษก่อน ก็ไม่มีผู้คนใดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แอสซิสต์มากกว่าเขาระหว่างช่วงเวลาเดียวกัน 


แข้งเบลเจี้ยนได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของลีกเมื่อฤดูกาล 2019-20 และ 2021-22 



การลงเล่น 277 เกมลีกจัดไป 117 แอสซิสต์ 


สถิตินี้เป็นรองแค่ ไรอัน กิ๊กก์ส ลำดับหนึ่งตลอดกาล 162 แอสซิสต์ ส่วนลำดับสาม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตามห่างอยู่ที่ 85 แอสซิสต์ 


‘เคฟ’ ยังได้ชื่อว่าผลงานสม่ำเสมอในเกมใหญ่เกมสำคัญ 


ยกตังอย่างการพบ เรอัล มาดริด รอบรองฯ ชปล.ฤดูกาล 2022-23 ยิงประตูสุดเฉียบ หรือเป็นการปั่นโค้งใส่ เชลซี จากหน้ากรอบเขตโทษ


นามสโมสร แมนฯ ซิตี้ เขาคือตำนานคนต่อไป เพราะมีผู้เล่นอีกแค่ 7 รายเตะแก่ ‘เรือใบสีฟ้า’ มากกว่า เดอ บรอยน์​ เวลานี้ 413 เกม 


การขาดหายของ เดอ บรอยน์ ไม่เพียงเป็นความสูญเสียของ แมนฯ ซิตี้ แต่เป็นความสูญเสียของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะต้องไร้แข้งมากความสามารถโชว์จ่ายบอลเทพๆอีก 


แล้ว กวาร์ดิโอล่า ก็คงไม่สามารถหาใครมาทดแทนได้ง่ายๆ  


ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com