ดอกไม้ไฟที่ระเบิดขึ้นทั่วบริเวณปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ นั้นเป็นการเฉลิมฉลองอย่งาเหมาะสมสำหรับการโจมตีอันทรงพลังของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เพื่อเอาชนะ แอสตัน วิลล่า แบบหมดจด
พลุไฟส่องสว่างให้กับ ปารีส ในลักษณะเดียวกับที่ทีมของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ เปล่งประกายในแชมเปี้ยนส์ลีก และตอนนี้พวกเขากลายเป็นตัวเต็งที่จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หลังจากที่ชนะด้วยสกอร์ 3-1 ในนัดแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศ
แกนหลักทั้งหมดคือ เดซิเร่ ดูเอ้ วัย 19 ปี ผู้ที่เฉลียวฉลาด และ ควิช่า ควารัตส์เคเลีบ อัจฉริยะชาวจอร์เจีย ซึ่งต่างทำประตูสุดสวยได้ก่อนพักครึ่ง และพลิกกลับมานำหลังจากถูก มอร์แกน โรเจอร์ส ทำให้ทีมเยือนนำก่อนในนาทีที่ 35
การที่ วิลล่า มีสปิริตนักสู้ และ เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ ยืนเป็นผู้รักษาประตู เปแอสเช ได้ประตูตอกฝาโลงจาก นูโน่ เมนเดส ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และนำทีมของ เอ็นรีเก้ คว้าชัยชนะได้อย่างที่ควรจะเป็นก่อนจะลงเล่นเกมนัดสองที่วิลล่า พาร์ค
เจ้าของทีม เปแอสเช ชาวกาตาร์มองว่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกเขามานานแล้ว และสิ่งที่น่าประหลาดก็คือตอนนี้พวกเขาดูพร้อมที่จะคว้าแชมป์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่เลิกใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยแบบที่เรียกว่า 'Bling Bling' ไปสู่การสร้างทีมที่มีโครงสร้างชัดเจนที่สุด
เนย์มาร์ โกลเด้นบอยบราซิล, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ ลีโอเนล เมสซี่ ต่างเดินทางมายังกรุงปารีสเพื่อตามหารางวัลใหญ่ร่วมกับผู้เล่นคนอื่นๆ เช่น เซร์คิโอ รามอส ดาวเตะแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย กับ เรอัล มาดริด มันนำมาซึ่งความผิดหวังเพิ่มมากขึ้นเมื่อถ้วยรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปยังคงหลุดมือ เปแอสเช ไป
การกลับคืนสู้สามัญแทนที่จะไล่ตามผลการแข่งขันแบบรีบร้อนทำให้ เปแอสเช ได้อัญมณีใหม่ๆ เช่น ดูเอ้ และ ควารัตส์เคเลีย ตอนนี้พวกเขาเป็นทีมที่โดดเด่น ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มบุคคลที่เป็นซูเปอร์สตาร์เท่านั้น
ทั้งคู่มีมูลค่า 120 ล้านยูโร แต่เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ทั้งในตอนนี้และอนาคต ต่างจากนักเตะที่ใช้เงินไปกว่า 222 ล้านยูโร เพื่อเซ็นสัญญา เนย์มาร์ มาจาก บาร์เซโลน่า ในปี 2017 และเงินก้อนโตที่มอบให้ เมสซี่ เมื่อเขาอายุ 34 ปี
มันยังทำให้ เอ็นรีเก้ เก็บ บรัดเล่ย์ บาร์โกล่า ผู้เล่นมากพรสวรรค์ไว้ที่ม้านั่งสำรองได้ด้วย
เดซิเร่ ดูเอ้ แปลว่า 'ความปรารถนาอันเปี่ยมล้น' ในภาษาอังกฤษ
มีข้อบกพร่องบางอย่างที่ต้องปรับปรุงในตัวดาวรุ่งรายนี้ ซึ่งทำให้ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ เทรนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศส โกรธ เมื่อเขาปรากฎตัวสายในวันแรกของการเข้าแคมป์ที่แกลร์กฟงแต็น ก่อนจะประเดิมนัดพบ โครเอเชีย
แต่เขาไม่ขาดความมั่นใจและก้าวขึ้นมายิงจุดโทษชัยเหนือ ลิเวอร์พูล ในการดวลเป้าที่แอนฟิลด์ รอบที่แล้ว
ไอดอลของ ดูเอ้ คือ เนย์มาร์ แต่เขาก็กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองหลังย้ายมาจาก แรนส์ ด้วยค่าตัว 50 ล้านยูโร เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
เปแอสเช เอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในการเซ็นสัญญากับ ดูเอ้ เขาทำได้ 4 ประตู และ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 31 นัดในลีก เอิง จากการเป็นตัวจริง 17 นัดในฤดูกาลที่แล้ว แต่ก็สร้างสรรค์โอกาสได้ถึง 27 ครั้งในจังหวะโอเพ่นเพลย์อีกด้วย
ฤดูกาลนี้ เขาทำผลงานไปอีกระดับหนึ่ง โดยสร้างโอกาสแบบโอเพ่นเพลย์ต่อ 90 นาทีมากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป ซึ่งอยู่ที่ 2.6 จากการลงเล่นขั้นต่ำ 750 นาที
ในซีซั่นนี้ บรรดากองกลางและกองหน้า มีเพียง อุสมาน เดมเบเล่ (13.5) เท่านั้นที่มีอัตราการพาบอลขึ้นหน้ามากกว่าเขาที่ทำได้ 12.4 ครั้งจาก 90 นาทีในลีก เอิง
ฤดูกาลนี้ ดูเอ้ มีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 22 ครั้ง คิดเป็นอัตราหนึ่งครั้งต่อ 105.8 นาที แบ่งเป็น 11 ประตู และ 11 แอสซิสต์ มีเพียง เดมเบเล่ (39) และ บาร์โกล่า (33) เท่านั้นที่มีส่วนร่วมกับประตูของ เปแอสเช มากกว่าเขา
เขาทำประตูได้ตลอด 4 เกมหลังสุดให้กับ เปแอสเช ในทุกรายการ โดยทำไป 5 ลูก และตอนนี้ก็มีส่วนร่วมถึง 13 ประตู จาก 12 เกมหลังสุด โดยทำได้ 8 ลูก และ 5 แอสซิสต์
คนที่เล่นร่วมกับเขาและเป็นภัยคุกคามต่อ วิลล่า อยู่ตลอดก็คือ ควารัตส์เคเลีย วัย 24 ปี ผู้มีลีลาที่คลาสสิก โดยไม่สามารถปกปิดพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่ทำให้เขาได้รับฉายาว่า 'ควาราโดน่า' ตั้งแต่สมัยที่เขาโด่งดังกับ นาโปลี เขาสร้างความลำบากให้กับ ลิเวอร์พูล เมื่อทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ แพ้ไป 1-4 ที่อิตาลี ในแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2021
เขาทำให้ แม็ตตี้ แคช ต้องหัวหมุนตลอดครึ่งแรก ก่อนที่กองหลังรายนี้จะถูกเปลี่ยนออก แต่ อักเซล ดิซาซี่ ที่ลงมาแทนก็ถูกดาวเตะจอร์เจียเอาชนะได้ทันทีด้วยการลากจี้แล้วบิดเปลี่ยนมุมและยิงผ่าน เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ ที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้
เมื่อประกอบกับ เดมเบเล่ คนที่ในที่สุดก็สามารถทำทุกสิ่งอย่างที่ถูกคาดหวังเหมือนสมัยอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในเวลานี้ เปแอสเช สามารถอ้างได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรปแล้ว
พวกเขาถล่ม แมนฯ ซิตี้ 4-2 ที่นี่ในรอบลีกเฟส จากนั้นก็ฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้คาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล ก่อนจะเอาชนะที่แอนฟิลด์ และผ่านเข้ารอบจากช่วงดวลจุดโทษ
ในที่สุด ตอนนี้ก็มีความหวังที่แท้จริงแล้วว่า เปแอสเช พร้อมแล้วที่จะทิ้งความทุกข์ทรมานในการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก หลายปีไว้เบื้องหลัง และเตรียมคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ที่สุดในยุโรปมาครอง
เปแอสเช เป็นทีมที่น่าจับตามองภายใต้การคุมทีมของ เอ็นรีเก้ ซึ่งเคยคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ร่วมกับ บาร์ซ่า เมื่อปี 2015 และปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ก็เต็มไปด้วยเสียงเชียร์และความคาดหวัง
เกมล่าสุดนี้ เปแอสเช มีอัตราความแม่นยำในการผ่านบอลอยู่ที่ 94.5% ซึ่งถือเป็นอัตราแม่นยำที่สุดในแชมเปี้ยนส์ลีกเกมเดียว สูงเป็นอันดับห้าโดยรวม และสูงเป็นอันดับสองในรอบน็อคเอาต์ทั้งหมดตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04
เปแอสเช มีโอกาสยิง 29 ครั้ง ขณะที่ วิลล่า ทำได้ 7 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาว่านี่เป็นครั้งที่ห้าตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่พวกเขามีโอกาสยิงมากกว่าฝ่ายตรงข้ามถึง 20 ครั้งหรือมากกว่านั้นในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดร่วมกับ แมนฯ ซิตี้
เดมเบเล่ สร้างโอกาสได้ถึง 9 ครั้งในเกมเจอกับ วิลล่า ซึ่งมากที่สุดเป็นสถิติ (ตั้งแต่ปี 2003-04) ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกให้กับ เปแอสเช และมากที่สุด ตั้งแต่ โยชัว คิมมิช ทำได้กับ บาเยิร์น ในเกมเจอ เปแอสเช เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 เมื่อเขาสร้างโอกาสได้ถึง 10 ครั้ง
ใน 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา เปแอสเช เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้เพียงครั้งเดียว โดยแพ้ บาเยิร์น ในปี 2020 พวกเขาไปถึงรอบรองชนะเลิศ 2 ครั้ง, รอบก่อนรองชนะเลิศ 2 ครั้ง และตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีก 5 ครั้ง
จากหลักฐานที่น่าเชื่อถือนี้ พวกเขาอาจพร้อมแล้วที่จะทำสำเร็จในนัดชิงชนะเลิศเสียที
ขอบคุณเนื้อหาจาก Thsport.com