เพิ่มความหลากหลาย : วิเคราะห์ ‘คริสเตียน นอร์การ์ด’ จะนำอะไรมาสู่อาร์เซนอล

อาร์เซนอล ประกาศการคว้าตัว คริสเตียน นอร์การ์ด กองกลางกัปตันทีมเบรนท์ฟอร์ดวัย 31 ปีมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการด้วยค่าตัวเพียง 10 ล้านปอนด์ พร้อมออปชันอีก 5 ล้านปอนด์ โดยเซ็นสัญญากัน 2 ปี พ่วงด้วยออปชันต่ออีก 1 ปี และนับเป็นการเซ็นสัญญานักเตะรายที่ 3 ของ ‘ปืนใหญ่’ ต่อจาก เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า และ มาร์ติน ซูบิเมนดี้
“นี่คือความฝันที่ผมเกือบจะยอมแพ้ไปแล้วด้วยวัยของผมที่เข้าสู่ช่วงท้ายอาชีพ ผมอายุ 31 แล้ว และแน่นอนว่ามันอาจจะเป็นปาฏิหาริย์ หากว่าเบรนท์ฟอร์ดจะได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มันค่อนข้างเป็นไปได้ยาก”
“แต่ตอนนี้ผมจะได้ยินเพลงนั้นแล้ว (แชมเปี้ยนส์ลีก) และมันถือเป็นฝันในวัยเด็กที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นจริง เพราะฉะนั้นผมจึงมีความสุขอย่างมากในตอนนี้” คือความรู้สึกของกองกลางทีมชาติเดนมาร์กวัย 31 ปี
ในขณะที่กุนซืออย่าง มิเกล อาร์เตต้า ก็ได้กล่าวต้อนรับกองกลางคนใหม่รายที่ 2 ของทีมในซัมเมอร์นี้ว่า “เขาเป็นนักเตะระดับทีมชาติผู้มีประสบการณ์อันล้ำค่าในพรีเมียร์ลีก และพิสูจน์ตัวเองมาแล้วในด้านความเป็นผู้นำและคาแรคเตอร์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างมากต่อทีมของเรา”
“เขาเป็นกองกลางผู้มีความเป็นเลิศด้านความเข้าใจแท็คติก รวมถึงความสารพัดประโยชน์ที่จะเพิ่มความลึกและความสมดุลในแดนกลางของเรา ขอต้อนรับคริสเตียนสู่ครอบครัวอาร์เซนอล”
เป็นที่ชัดเจนว่าการมาของ คริสเตียน นอร์การ์ด ไม่ใช่ดีลที่น่าดึงดูดนักหากเทียบกับดีลที่เพิ่งเกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของทีมรองแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 ปีติด แต่ดีลนี้ถือเป็นการสะท้อนความต้องการของ มิเกล อาร์เตต้า ในการเพิ่มความแข็งแกร่งในแดนกลางและประสบการณ์ในทีม จากการที่อดีตกองกลาง ‘ผึ้งน้อย’ ค้าแข้งในอังกฤษมานานถึง 6 ปีแล้ว รวมถึงสถิติต่าง ๆ ในการเล่นเกมรับที่พอจะพิสูจน์ได้แล้วว่า ดีลนี้มีโอกาสที่จะคุ้มค้ามากกว่าค่าตัว 10 ล้านปอนด์
“คริสเตียน นอร์การ์ด เพิ่งจบฤดูกาลที่ 6 กับเบรนท์ฟอร์ด โดยเป็นการลงเล่น 4 ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก และนับตั้งแต่เขาเปิดตัวกับลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2021 เขาก็ทำสถิติตัดบอลได้ทั้งหมด 201 ครั้ง มากที่สุดในบรรดาผู้เล่นพรีเมียร์ลีกทุกคนในช่วงเวลาเดียวกัน”
“และยังรั้งอันดับ 2 ในด้านสถิติการแย่งบอลคืนกลับมาให้ทีม (844 ครั้ง) รวมถึงเป็นอันดับสามที่เข้าสกัดสำเร็จมากที่สุด (189 ครั้ง) นอร์การ์ดเป็นกองกลางตัวรับสไตล์เบอร์ 6 ที่ทำหน้าที่ยืนอยู่หน้าแผงแนวรับ และคอยตัดเกมรุกของคู่แข่ง” แมทธิว ฮ็อบบ์ส ผู้สื่อข่าวจาก BBC เผย
นอกจากนี้ การมาของ ‘นอร์การ์ด’ ยังจะช่วยให้ กุนซือชาวสแปนิช ปรับแต่งการยืนในแดนกลางได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยสามารถให้ทั้ง นอร์การ์ด และ ซูบิเมนดี้ จับคู่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ 2 คนภายใต้แผน 4-2-3-1 รวมถึงยังสามารถปรับเป็นกลาง 3 คน ได้อีกโดยมีมิดฟิลด์แดนโคนมเป็นกลางรับหนึ่งตัว พร้อมมีมิดฟิลด์เบอร์ 8 อีก 2 คนอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และ ดีแคลน ไรซ์ ขนาบข้าง
“คริสเตียน นอร์การ์ด เป็นกองกลางตัวรับสมัยใหม่ที่สามารถตัดเกม, สกัดบอล, ตัดบอล, บล็อก และชนะการดวลลูกกลางอากาศได้ เขาจะทำให้ มาร์ติน โอเดการ์ด และ ดีแคลน ไรซ์ สามารถเล่นในบทบาทของตัวเองได้เต็มที่ โดนจะมีนอร์การ์ดคอยปกป้องพื้นที่ด้านหลังให้” เอดู รูบิโอ อดีตผู้ช่วยโค้ชของ ยูเลน โลเปเตกี เผย
“นอกจากนี้ เขายังสามารถเก็บบอลและพาบอลขึ้นหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พรีเมียร์ลีกถือเป็นลีกที่มีจังหวะเปลี่ยนเกมเร็ว ทำให้ผู้เล่นที่สามารถอ่านสถานการณ์อันตรายได้ดีและมีความสามารถในการแย่งบอลกลับมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาได้รับการพิสูจน์แล้ว ทำให้ดีลนี้เป็นดีลที่สมเหตุสมผลมาก” อดีตผู้ช่วยโค้ชที่เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, วูล์ฟแฮมป์ตัน และ คริสตัล พาเลซ ทิ้งท้าย
ทั้งนี้ คริสเตียน นอร์การ์ด ย้ายจาก ฟิออเรนตินา มาสู่ถิ่นจีเทค คอมมูนิตี้ ในปี 2019 พร้อมรับใช้ เบรนท์ฟอร์ด ไปทั้งหมด 196 นัด ยิงไป 13 ประตู โดยฤดูกาล 2024/25 ที่ผ่านมาคือฤดูกาลที่เขายิงได้มากที่สุดในอาชีพการค้าแข้งคือ 6 ประตู ในขณะที่การลงเล่นให้ทีมชาติเดนมาร์ก นอร์การ์ดประเดิมสนามรับใช้ชาติในปี 2020 และลงเล่นให้ทีมไปทั้งหมด 35 นัดนับแต่นั้น

ขอบคุณที่มา goal.com

——-

ขอบคุณเนื้อหาจาก Rakball.com
https://www.rakball.com/954707.html

 

เรารวม ลิ้งบอลสด ลิ้งดูบอล ลิงค์ดูบอล ดูบอลสด บอลสด บอลออนไลน์ บ้านผลบอล ดูบอลพรีเมียร์ลีก ดูบอลสด7m ดูบอลโลก ฟุตบอลโลก ดูฟรี ดูบอลออนไลน์ ดีที่สุดในไทย อัพเดทลิ้งเร็วสุด มือถือก็ดูได้ เพียงคลิกเมนู ดูบอลสด แล้วเราจะพาท่านไปดู บอลสด ๆ แบบฟรีๆ ผ่าน facebook youtube และอื่นๆ อีกหลายๆ ช่องทางมากมาย